อินไซท์

August 2009

Scene4 Magazine Arts and Media: Arts of Thailand-"Lilit Pra Lor"

จานีน ยโสวันต์

ลิลิตพระลอเป็นนิยายโศกนาฏกรรมที่เก่าแก่มากเรื่องหนึ่งซึ่งได้รับการ
ยกย่องเป็นอย่างสูงสุดจากวรรณคดีสโมสรในสมัยพระบาทสมเด็จพระ
มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ผู้มีความรู้ด้านวรรณคดีไทยหลายท่าน
เห็นว่าเรื่องพระลอเป็นบทกวีนิพนธ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเรื่องหนึ่ง มีผู้กล่าว
ว่าร่ายทั้ง 600 บทนั้นได้รับการร้อยเรียงไว้อย่างสายงามเหนือไปกว่าที่
เคยเห็นมา แม้กระทั่งศิลปินนักออกแบบท่าร่ายรำยังใช้บทกวีเพื่อ
ออกแบบการแสดงละครเวทีเรื่องนี้ ศิลปินนักวาดภาพหลายท่านก็วาด
ผลงานมาจากบทกวีเรื่องนี้

ผลงานเรื่องนี้ไม่มีผู้ใดทราบว่าใครเป็นผู้แต่ง แต่การศึกษาได้เปิดเผยให้
เราทราบว่าวรรณกรรมเรื่องนี้ถูกเขียนขึ้นมาในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น
(ในรัชสมัยของพระนารายณ์มหาราช) ในตอนนั้นเองอาณาจักรอยุธยา
เป็นพันธมิตรกับประเทศยุโรปโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศฝรั่งเศส เอก
อัครราชทูตและนักการทูตหลายท่านถูกส่งตัวไปที่ยุโรป กวีนิพนธ์เรื่องนี้
ยังอ้างถึงอาวุธประเภทปืนไฟของยุโรปและถูกเขียนขึ้นมาเพื่อเป็นความ
บันเทิงสำหรับพระเจ้าแผ่นดินและพระบรมวงศานุวงศ์อีกด้วย

ในตอนแรกของเรื่องนี้ได้บรรยายถึงรูปร่างลักษณะของพระลอ เจ้าชาย
ที่สมรสแล้วที่ได้รับสืบทอดราชบัลลังค์จากพระบิดา กษัตริย์แห่งเมือง
แมนสรวง ข่าวลือเรื่องนี้แพร่สะพัดไปยังหลายอาณาจักรรวมทั้งเมือง
สรองที่เป็นเมืองที่เป็นศัตรูกัน กษัตริย์แห่งเมืองสรองมีพระราชธิดาสอง
พระองค์ที่มีรูปโฉมงดงาม ทั้งคู่มีนามว่าพระเพื่อนและพระแพง เจ้าหญิง

twoprincesses-cr

ทั้งสองพระองค์ต่างรู้สึกกระวนกระวายและเศร้าใจเพราะทั้งสองพระองค์
อยากให้พระลอเป็นคนรักแม้ว่าพระลอได้อภิเษกสมรสแล้วก็ตาม แต่
ด้วยความช่วยเหลือของนางรื่นและนางโรยซึ่งเป็นหญิงรับใช้ประจำตัว
เจ้าหญิงทั้งสองพระองค์เดินทางไปหาปู่เจ้าสมิงพรายซึ่งเป็นจอมขมัง
เวทให้ร่ายเวทมนตร์ล่อลวงให้พระลอและทหารรับใช้ทั้งสองคนออกมา
จากพระราชวัง จากนั้นนางรื่นและนางโรยได้พาพระลอเข้าไปหาพระ
เพื่อน พระแพงอย่างลับๆ นอกจากนี้นางรื่นและนางโรยก็มีคนรักเช่นกัน
(ทหารรับใช้ของพระลอ)

การบรรยายฉากกามารมณ์นั้นตรึงความสนใจผู้อ่าน ฉันทลักษณ์และการ
ร้อยเรียงคำที่สวยงามของบทประพันธ์ลิลิต ยั่วเย้าด้วยความรู้สึกเสน่หา
โดยปกติแล้วลิลิตถูกเขียนขึ้นมาเพื่อสร้างขวัญกำลังใจในช่วงเวลา
สงครามแต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของมนต์ดำเพื่อให้ได้มาซึ่งความรัก คุณจะ
รู้สึกโศกเศร้าเมื่อคุณได้กลับมาอ่านเรื่องราวความรักของเจ้าหญิงทั้ง
สองพระองค์ผู้ซึ่งหมกมุ่นอยู่กับความรักและกามารมณ์ พวกเธอมาจาก
ตระกูลผู้สูงศักดิ์ ได้ยินข่าวสารที่มีคนพูดถึงเกี่ยวกับเจ้าชายหนุ่มรูปงาม
ด้วยการร้องเพลงที่มีเนื้อเพลงน่าตื่นตะลึง ข่าวลือมีเนื้อความว่าพระลอมี
รูปโฉมงามเหมือนพระอินทร์ ชาวบ้านร้องเพลงคลอไปกับเครื่องดนตรี
หลายชนิดทำให้เจ้าหญิงทั้งสองพระองค์ตื่นขึ้นมาจากการบรรทม และ
พวกเธอตกหลุมรักพระลออย่างลึกซึ้ง เจ้าหญิงพระองค์หนึ่งได้ถามหญิง
รับใช้ว่า "เจ้าทราบเรื่องราวของพระลอหรือไม่" หญิงรับใช้ไม่ตอบ
คำถาม เธอจึงกล่าวต่อไปว่า "เจ้ายังหลับอยู่หรือ ทำอะไรสักอย่างซิ" นี่
จึงเป็นเหตุผลที่หญิงรับใช้ไปหาจอมขมังเวท

PraLor2-cr

(เรื่องลิลิตพระลอมีบทโคลงตัวอย่างที่มักเอาไว้ท่องจำเวลาจะแต่ง
โคลงสี่สุภาพเนื่องจากใช้ ฉันทลักษณ์ถูกต้องทั้งหมดและยังมีความ
ไพเราะอีกด้วย)

เสียงลือเสียงเล่าอ้าง         อันใด    พี่เอย
เสียงย่อมยอยศใคร           ทั่วหล้า
สองเขือพี่หลับใหล           ลืมตื่น    ฤาพี่
สองพี่คิดเองอ้า                อย่าได้ถามเผือ

จอมขมังเวทอาศัยอยู่ในถ้ำ ชาวบ้านเรียกขานเป็นปู่เจ้าสมิงพราย เขา
ร่ายมนต์เสน่ห์ของเจ้าหญิงทั้งสองพระองค์และส่งไปยังวังพระลอ มนต์
คาถาทำให้พระลอตกหลุมรักเจ้าหญิงทั้งสองพระองค์

ก่อนที่พระลอจะออกจากวังของเขา เขาได้บอกความจริงกับมารดา
เกี่ยวกับความรักของเขาที่มีต่อเจ้าหญิงทั้งสองพระองค์ และบอกว่าเขา
ต้องไปพบกับพวกเธอให้ใด้ มารดาของเขาได้ห้ามปรามไม่ให้เขาไป แต่
เขาก็ออกไปได้โดยการปลอมตัวเป็นทหาร ในที่สุดเวทมนตร์ก็ได้พาเขา
มายังวังของพระเพื่อนพระแพง

     สี่คนคิดชอบถ้อย                 สอนสั่งกันค้อยค้อย

สว่างร้อนไฟกาม ฯ                     

     ส่วนสามกษัตริย์แก่นท้าว       กรโอบองค์โน้มน้าว

แนบเนื้อเรียงรมย์ ฯ                    

     เชยชมชู้ปากป้อน                 แสนอมฤตรสข้อน

สวาทเคล้าคลึงสมร ฯ                 

     กรูเกี้ยวกรกอดเกื้อ               เนื้อแนบเนื้อโอ่เนื้อ

อ่อนเนื้อเอาใจ ฯ                       

     พักตราใสใหม่หม้า               หน้าแนบหน้าโอ่หน้า

หนุ่มหน้าสรสม ฯ                       

     นมแนบนมนิ่มน้อง               ท้องแนบท้องโอ่ท้อง

อ่อนท้องทรวงสมร ฯ                  

     สมเสน่หอรใหม่หมั้ว             กลั้วรสกลั้วกลิ่นกลั้ว

เกลสกลั้วสงสาร ฯ                     

     บุษบาบานคลี่คล้อย              สร้อยแลสร้อยซ้อนสร้อย

เสียดสร้อยสระศรี ฯ                    

     ภุมรีคลึงคู่เคล้า                   กลางกมลยรรเย้า

ยั่วร้องขานกัน ฯ                        

     สรงสระสวรรค์ไป่เพี้ยง           สระพระนุชเนื้อเกลี้ยง

อาบโอ้เอาใจ ฯ                         

     แสนสนุกในสระน้อง             ปลาชื่นชมเต้นต้อง

ดอกไม้บัวบาน ฯ                       

     ตระการฝั่งสระแก้ว               หมดเผ้าผงผ่องแผ้ว

โคกฟ้าฤๅปูน ฯ                         

     บุญมีมาจึงได้                      ชมเต้าทองน้องไท้

พี่เอ้ยวานชม                            หนึ่งรา ฯ

     พระเพื่อนสมสมรแล้ว            ลอราชเชยชมแก้ว

แก่นไท้แพงทอง                       เล่านา ฯ

     ละบองบรรพหลากเหล้น        บเหนื่อยบได้เว้น

เหิ่มชู้สมสมร ฯ                          

     ดุจอัสดรหื่นห้า                    แรงเร่งเริงฤทธิ์กล้า

เร่งเร้งฤๅเยาว์ ฯ                         

     ดุจสารเมามันบ้า                  งาไล่แทงงวงคว้า

อยู่เคล้าคลุกเอา ฯ                     

     ประเล้าโลมอ่อนไท้              แก้วพี่เอยเรียมได้

ยากด้วยเยาวมาลย์ ฯ                  

     เอนดูวานอย่าพร้อง              เชิญพระนุชนิ่มน้อง

อดพี่ไว้เอาบุญ                         ก่อนเทิญ ฯ

 

PHRAlor5-cr

ตอนจบของเรื่องเป็นโศกนาฏกรรม สมเด็จย่าของเจ้าหญิงทั้งสอง
พระองค์สั่งทหารให้จับกุมพระลอ หลานสาวทั้งสองรวมทั้งหญิงรับใช้
ท้ายที่สุดพระลอ เจ้าหญิงทั้งสองรวมทั้งหญิงรับใช้เสียชีวิตลงทั้งหมด
ร่างของทุกคนถูกปักตรึงไว้ด้วยลูกธนู เจ้าหญิงทั้งสองพระองค์อยู่ใน
อ้อมกอดของพระลอที่ยืนสิ้นใจตาย เรื่องนี้สอนให้เราได้ทราบว่า
ความสัมพันธ์ทางกามารมณ์เพียงอย่างเดียวไม่ได้ทำให้ชีวิตยั่งยืนแม้ว่า
จะไม่มีใครหลีกหนีพ้นก็ตาม

ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2552 โรงละครภัทราวดีเธียเตอร์ได้ชุบชีวิตบท
กวีให้เป็นการแสดงบนเวทีที่เรียกว่า "รอรัก ลิลิตพระลอ" กำกับการ
แสดงโดยคุณภัทราวดี มีชูธน กำกับเพลงโดยอนันต์ นางคง และ
อโณทัย นิติพน พร้อมทั้งนักไวโอลินระดับโลก ไคล์ ดิลลิงแฮม การ
แสดงจะเดินทางไปในหลายๆจังหวัดในประเทศไทยและหลายๆประเทศ
ในปีนี้

ภาพเขียนโดยจักรพันธ์ โปษยกฤต

กรุณาลงความเห็น เกี่ยวกับบทความนี้

ส่ง
อีเมล์
หน้านี้

©2009 Janine Yasovant
©2009 Publication Scene4 Magazine

Scene4 Magazine: Janine Yasovant
จานีน ยโสวันต์ เป็นนักเขียน
เธออาศัยอยู่ในเชียงใหม่ประเทศไทย

สำหรับบทความและบทวิจารณ์อื่นๆ ของ จานีน ยโสวันต์
กรุณาตรวจดู แฟ้มเก็บข้อมูล

 

Scene4 Magazine - Arts and Media

August 2009

Cover | This Issue | inFocus | inView | reView | inSight | Blogs | inPrint | Books | New Tech | Links | Masthead Submissions | Advertising | Special Issues | Payments | Subscribe | Privacy | Terms | Contact | Archives

Search This Issue Share This Page

RSS FeedRSS Feed

Scene4 (ISSN 1932-3603), published monthly by Scene4 Magazine - International Magazine of Arts and Media. Copyright © 2000-2009 AVIAR-DKA LTD - AVIAR MEDIA LLC. All rights reserved.

Now in our 10th year of publication with
comprehensive archives of over 5000 pages 

Scene4 Magazine: Sony DSLR Cameras
Scene4 Magazine: Scientific American
Scene4 Magazine: StrikeOne Films